วันเสาร์ที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2558

คู่มือบำรุงรักษา การตรวจเช็คระยะปรับลูกปืน (END PLAY CHECKING)

 เอามาจาก http://www.tbelco.com 
 ขอบคุณมากมายครับ ...

คู่มือบำรุงรักษา
การตรวจเช็คระยะปรับลูกปืน (END PLAY CHECKING)

 

ระยะการบำรุงรักษาเพลาล้อแม็กนั่ม

ค่าแรงขันสกรูต่าง ๆ

การปรับลูกปืนล้อ

มาตรฐานจารบี MAGNUM ตะกูล "แซดเอ็ม"

คุณสมบัติจาระบีฮีโน่ เอ็มพี-3

วันอังคารที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2558

10 ผักสวนครัวกินแล้วงอก ปลูกเป็นต้นใหม่ได้ง่าย ๆ


10 ผักสวนครัวกินแล้วงอก ปลูกเป็นต้นใหม่ได้ง่าย ๆ

 

เอามาจาก http://home.kapook.com/view100416.html .. ขอบคุณมากมายครับ


10 ผักสวนครัวกินแล้วงอก ปลูกเป็นต้นใหม่ได้ง่าย ๆ
10 ผักสวนครัวกินแล้วงอก ปลูกเป็นต้นใหม่ได้ง่าย ๆ

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

          ผักสวนครัวสุดเจ๋ง ที่สามารถนำบางส่วนมาปลูกใหม่ได้ เรามาปลูกผักสวนครัวกินเองที่บ้าน แบบปลอดสารพิษกันเถอะ
         
เชื่อ ว่าหลายคนเคยลองนำรากหรือหน่อของผักสวนครัวไปปักดิน เพื่อหวังให้ผักชนิดนั้น ๆ เติบโตขึ้นมาเป็นผักสวนครัวภายในบ้านให้เรามีกินตลอดไป ซึ่งก็ไม่เพียงแต่ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายบางส่วนไปเท่านั้น แต่การมีแปลงผักสวนครัวในบ้านก็ยังเพิ่มกิจกรรมดี ๆ ให้ครอบครัวได้มีเวลาร่วมกันมากขึ้น ที่สำคัญทุกคนในบ้านยังได้กินผักปลอดสารพิษร้อยเปอร์เซ็นต์อย่างแน่นอน แถมไม่ต้องเสียเวลาไปหาซื้อผักจากตลาดกันด้วย เอาล่ะ ! เกริ่นมาซะขนาดนี้ก็อยากแนะนำ 10 ผักสวนครัวที่กินแล้วสามารถนำไปปลูกต่อได้ใหม่ จะได้ลองปลูกผักสวนครัวภายในบ้านไว้กินกันนาน ๆ เนอะ
1. กระเทียม

          กระเทียมที่ถูกทิ้งไว้นาน ๆ มักจะงอกหน่อสีเขียวออกมาให้เห็น และคนส่วนมากก็มักจะคิดว่ากระเทียมเสียก็เลยนำไปโยนทิ้งซะอย่างนั้น ทั้งที่จริงแล้วหากเรานำกระเทียมไปแช่น้ำต่ออีกสักพัก รอให้หน่อสีเขียวงอกยาวพอประมาณ เราจะสามารถตัดเอาหน่อสีเขียว ๆ มากินได้ โดยรสชาติจะออกขมน้อยกว่ากระเทียม หรือจะตัดเอาไปผัดน้ำมันเหมือนผัดต้นหอมก็ได้นะคะ

2. หัวแครอท


          หัวแครอทที่ถูกเฉือนทิ้งสามารถนำมาแช่น้ำแล้วนำไปวางข้างหน้าต่างที่มีแดด ส่อง รอสักระยะจะมีต้นเขียว ๆ ลักษณะคล้ายผักชีงอกออกมา ซึ่งสามารถนำไปตกแต่งจานแทนผักชีได้เลยล่ะ

3. โหระพา

          หลังจากเด็ดใบโหระพาไปกินหมดแล้ว ให้นำก้านไปปักลงในกระบะทราย โดยผสมแกลบชื้น ๆ เข้าไปด้วย จากนั้นก็รดน้ำและดูแลต่อประมาณ 7 วัน รากของโหระพาจะงอกออกมา ทีนี้ก็ค่อยย้ายโหระพาไปปลูกลงแปลงในสวนที่บ้าน ส่วนการดูแลโหระพาก็รดน้ำพอชุ่มทุกวัน แต่อย่าให้น้ำขังก็พอ

4. กะเพรา

          กะเพราก็ปลูกง่ายไม่ต่างจากโหระพาเลยค่ะ เพียงแค่นำก้านที่ริดใบออกไปหมดแล้วไปปักลงในกระถางดินร่วน หรือจะลงแปลงปลูกลงในดินโดยตรงเลยก็ได้ หลังจากนั้นก็รดน้ำเช้าเย็นพอให้ชุ่ม ก็รอเวลาที่กะเพราจะงอกออกมาใหม่ได้เลยจ้า

5. ผักกาดหอม

          ก้านผักกาดหอมที่เหลืออยู่นิด ๆ ลองนำไปแช่น้ำให้ระดับน้ำสูงท่วมรากผักกาดประมาณ ½ นิ้ว จากนั้นนำโหลแช่ผักกาดหอมไปวางข้างหน้าต่างที่แดดส่องถึงประมาณ 2 อาทิตย์ ผักกาดหอมจะค่อย ๆ งอกออกมา แต่ถ้านานกว่านั้นประมาณ 3-4 อาทิตย์ ผักกาดหอมจะโตเต็มที่เหมือนซื้อมาใหม่เลย

10 ผักสวนครัวกินแล้วงอก ปลูกเป็นต้นใหม่ได้ง่าย ๆ
 

6. หอมหัวใหญ่

          ตัดเอาเฉพาะรากหัวหอมไปปักลงในกระถางดินร่วน รดน้ำเช้า-เย็นและรอประมาณ 2-3 สัปดาห์พอให้รากแข็งแรง คราวนี้ก็จัดการลงแปลงปลูกได้เลยจ้า

7. ต้นหอม

          ต้นหอมก็ใช้วิธีการแช่รากกับน้ำประมาณ 5 วัน พอให้รากขยายสาขาออกมาเยอะ ๆ พร้อมทั้งส่วนใบของต้นหอมก็จะงอกออกมาให้เราได้ตัดไปกินต่อ เห็นไหมล่ะว่าปลูกใหม่ง่ายนิดเดียวจริง ๆ

8. ขิง

          การปลูกขิงไม่ต่างจากหอมหัวใหญ่เลยสักนิดค่ะ แต่อาจจะต้องใช้เวลาปลูกนานประมาณ 2-3 เดือนถึงจะรากแน่นพอที่เจริญเติบโตต่อไปได้ แต่ถ้าจะให้เป็นแง่งจริงจังต้องรอนานประมาณ 10 เดือนขึ้นไปเลยทีเดียว

9. เห็ด
          ใครว่าเพาะเห็ดต้องใช้กรรมวิธีการซับซ้อน เพราะเพียงแค่ผสมดินกับกากกาแฟบดเข้าไปในปริมาณเท่า ๆ กัน จากนั้นก็นำเห็ดลงไปจิ้ม รดน้ำให้ชุ่มและปลูกในที่ชื้น รอประมาณ ​2-3 วันเห็ดก็จะงอกขึ้นมาใหม่ได้ง่าย ๆ

10. ผักชี

          หากไม่ได้นำรากผักชีไปโขลกเป็นส่วนผสมในอาหารก็นำมาแช่น้ำพอให้รากงอกขึ้นมา ยาวพอจะไปปักลงในกระถางได้ จากนั้นรดน้ำต่อไปอีก 2-3 สัปดาห์ เราก็จะมีต้นผักชีเอาไว้รับประทานแบบสดใหม่สุด ๆ


          ผัก สวนครัวที่กินกันเป็นประจำเหล่านี้ถ้าได้ปลูกเองที่บ้านก็คงมีกินมีใช้กัน เพลิน ๆ แบบไม่ต้องเสียเงินซื้อสักบาท ที่สำคัญลดความเสี่ยงจากสารเคมีสารพัดชนิดไปในตัวด้วยเนอะ

วิธีไล่จิ้งจก ออกจากบ้านแบบง่ายๆ




เอามาจาก http://khaosandee.blogspot.com/2015/06/blog-post_18.html



นายสัตวแพทย์อลงกรณ์ มหรรณพ สัตวแพทย์ช่วยราชการสำนักพระราชวัง ให้ความกระจ่างในเรื่องราวของจิ้งจกไว้อย่างน่าสนใจว่า ที่ไหนมีจิ้งจกชุกชุมหรือมีตุ๊กแกหลายตัว แสดงว่าสภาพแวดล้อมที่นั้นอยู่ในขั้นสะอาดปลอดภัยไร้มลภาวะเป็นพิษ ปัจจัยนี้จึงทำให้จิ้งจกและตุ๊กแกพากันออกหาอาหารประเภทแมลงกันเป็นจำนวนมาก เพราะเมื่อมีแมลงมาก ก็แสดงให้เห็นว่าพื้นที่ตรงนั้นปลอดมลพิษอากาศบริสุทธิ์ และเป็นสถานที่ที่ค่อนข้างห่างไกลสารเคมี หรือยาฆ่าแมลงชนิดต่างๆ

หมออลงกรณ์ กล่าวด้วยว่า สัตว์เลื้อยคลานอย่างจิ้งจก ตุ๊กแก ถือเป็นสัตว์ที่มีวงจรชีวิตที่น่าสนใจ เป็นตัวกำจัดแมลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งแมลงมีปีก เพื่อไม่ให้มีแมลงมากมายจนเกินไปนอกจากจิ้งจกแล้ว ก็ยังมีสัตว์เลื้อยคลานอย่างจิ้งเหลน กิ้งก่า ที่เป็นสัตว์นักล่าแมลงตามพื้นอีกด้วย สัตว์ประเภทนี้ถือเป็นตัวแปรในการควบคุมปริมาณของแมลงชั้นดี ที่คนไม่ควรไปทำร้ายหรือฆ่าทิ้ง เพราะนอกจากเป็นการไม่สมควรแล้ว ยังเป็นการตัดวงจรชีวิตของสัตว์เลื้อยคลานประเภทนี้อีกด้วย ดังนั้นหากรำคาญจิ้งจกหรือตุ๊กแกจริงๆ เนื่องจากชอบพากันออกมาก่อกวน ทำให้บ้านสกปรกแนะนำให้ใช้วิธีดังนี้

เกร็ดน่ารู้ วิธีไล่จิ้งจกแบบง่าย ๆ
1. ใช้ผ้าชุบน้ำมัน ก๊าดผสมน้ำ แล้วนำไปวางตามมุมอับ หรือจุดที่มีสัตว์เหล่านี้อยู่ชุกชม กลิ่นเหม็นของน้ำมันก๊าด จะเป็นตัวไล่ให้จิ้งจกตุ๊กแกไม่กล้าเข้าใกล้
2. ใช้การบูร ลูกเหม็น นำไปวางไว้ตามมุมอับก็ใช้ได้เช่นกัน
3. ใช้น้ำหรือปืนฉีดน้ำฉีดไปที่เท้าของจิ้งจก ตุ๊กแก น้ำจะเข้าไปแทนที่สูญญากาศใต้พังผืดบริเวณเท้า ทำให้มันหล่นลงมา วิธีนี้ก็สามารถไล่ได้อีกวิธีหนึ่ง
วิธีไล่จิ้งจกโดยการใช้สมุนไพร : ซึ่งเป็นวิธีการที่ใช้ได้ผลแน่นอน ไม่ต้องฆ่าและไม่ต้องใช้สารเคมีอีกด้วย มีวัตถุดิบและวิธีการทำดังนี้
สูตรไล่จิ้งจก : ใบสาบเสือ 1 ส่วน, ใบน้อยหน่า 1 ส่วน
วิธีทำ : นำใบสาบเสือและใบน้อยหน่าอย่างละเท่าๆ กัน ให้นำใบสาบเสือและใบน้อยหน่าที่ได้มาตำหรือสับเป็นชิ้นๆ ผสมให้เข้ากัน เพื่อให้ได้กลิ่นสาบจากวัตถุดิบดังกล่าวออกมาจากนั้นนำใบสาบเสือและใบ น้อยหน่าที่ตำผสมเข้ากัน แล้วมาห่อผ้าด้วยผ้าที่มีอากาศระบายเพื่อให้กลิ่นเหม็นสาบออกมา และสะดวกในการนำไปใช้ นำไปวางหรือแขวนไว้ในบริเวณที่มีจิ้งจกและตุ๊กแกอาศัยอยู่ จิ้งจกและตุ๊กแกก็จะไม่มาอาศัยอยู่ในบริเวณนั้นอีก
เป็นไงคะวิธีการไล่จิ้งจกให้ไม่มารบกวนเรา ง่ายมากเลยใช่มั้ยคะ ถ้าบ้านเพื่อนๆ มีปัญหาเกี่ยวกับจิ้งจกมากวนใจอยู่ล่ะก็ ลองนำวิธีเหล่านี้ไปใช้กับบ้านเพื่อนๆ ดูนะคะ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก