30 สิ่งที่คุณควรเลิกทำกับตัวเองเสียที
ขอบคุณ มากมายครับ 
 
นี้ผมก็เลยของเอาอีกบล็อกหนึ่งซึ่งผมชอบมากมาต่อยอดไปเลยแล้วกัน นั่นคือ 30 สิ่งที่คุณควรเลิกทำกับตัวเอง โดย Marc and Angel ที่ผมว่าเนื้อหามันน่าอ่านมากพอๆ กัน (หรืออาจจะมากกว่าด้วยซ้ำ) เลยขอหยิบเอามาเล่าและเสริมในบางส่วนให้เห็นภาพมากขึ้น
ลองมาดูกันครับว่าคุณทำสิ่งเหล่านี้อยู่หรือเปล่า? ถ้าใช่ หยุดทำมันเถอะครับ ^^
1. หยุดใช้เวลากับคนแย่ๆ
คบคนพาล พาลไปหาผิด คบบัณฑิต บัณฑิตพาไปหาผล 
เรารู้จักสุภาษิตนี้กันมาแต่ไหนแต่ไร เรารู้ดีว่าคนดีๆ 
มักจะสอนและทำให้เราได้ใช้ชีวิตดีๆ เป็นพื้นฐาน ฉะนั้นแล้ว 
คุณควรรีบใช้ชีวิตอยู่กับคนดีๆ แทนที่จะไปอยู่ในสังคมของคนแย่ๆ 
ที่ทำให้ชีวิตของคุณไม่ไปไหน ยิ่งในเรื่องความรัก 
เขาว่ากันว่าถ้าคนนั้นเขาต้องการคุณจริง 
เขาจะมีที่ให้คุณโดยที่คุณไม่ต้องพยายามหรือต่อสู้เพื่อให้ได้มันมา 
อย่าเสียเวลากับคนที่ไม่เห็นค่าของคุณ 
ยังมีคนอีกเยอะที่ให้ความสำคัญกับตัวคุณ 
จำไว้ว่าคนที่อยู่เคียงข้างคุณเวลาที่คุณเวลาที่แย่และชี้ทางให้คุณได้ดีคือ
คนที่เป็นเพื่อนแท้ และคือคนที่คุณควรให้ความสำคัญต่างหาก
2. หยุดวิ่งหนีปัญหาของตัวเอง
การเอาแต่หนีปัญหาไม่ใช่ทางแก้ปัญหาแต่อย่างใด 
หากแต่เป็นแค่การยืดเวลาทรมานกับปัญหาออกไปเท่านั้น 
การที่คุณจะก้าวหน้าและไปสู่ชีวิตที่ดีได้ ก็คือการที่คุณก้าวข้ามอดีต 
ต่อสู้และเอาชนะกับปัญหาให้ได้ 
มันอาจจะไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะแก้ปัญหาบางอย่าง บางปัญหาต้องใช้เวลา 
แต่มันก็ไม่ใช่ข้ออ้างที่จะปฏิเสธหรือมองข้ามมัน 
การเผชิญหน้ากับปัญหาอาจจะทำให้เราต้องทุกข์ ต้องเจ็บปวด ต้องร้องไห้ 
แต่นั่นก็คือบทเรียนของชีวิตที่เราต้องเผชิญหน้าและเติบโตขึ้น 
และมันคือสิ่งสำคัญของหล่อหลอมชีวิตเราให้อยู่กับความเปลี่ยนแปลงได้
3. หยุดโกหกตัวเอง
การโกหกตัวเองมีแต่ทำให้คุณไม่อยู่กับความเป็นจริง และเอาจริงๆ 
แล้วตัวคุณเองก็รู้อยู่เต็มอกว่าความจริงคืออะไรเพียงแต่ไม่ยอมรับมัน 
ยิ่งคุณโกหกตัวคุณเองก็มีแต่ทำให้คุณไม่สามารถอยู่กับชีวิตจริงได้ 
การเผชิญหน้ากับความจริงเป็นสิ่งที่ยากลำบาก 
แต่นั่นก็คือขั้นตอนสำคัญที่ทำให้ชีวิตของเราก้าวต่อไป
4. หยุดผลัดวันประกันพรุ่ง
ชีวิตคุณมีอะไรหลายๆ อย่างที่คุณควรได้ทำ 
อย่าเอาเวลาที่คุณมีไปทำอย่างอื่นจนลืมทำอะไรให้ตัวเอง 
การช่วยคนอื่นเป็นสิ่งที่ดีแต่จะดีมากถ้าคุณไม่ลืมเป้าหมายของัวเองและเติม
เต็มให้กับสิ่งที่อยากทำด้วย
5. หยุดพยายามเป็นสิ่งที่ไม่ใช่ตัวคุณเอง
หลายๆ ทีเราอยากเป็นอย่างนั้นเป็นอย่างนี้ 
แต่มันไม่ใช่เรื่องที่ทำได้เสมอไป 
ตัวตนบางอย่างไม่ได้เป็นสิ่งที่เราเกิดมาเพื่อเป็น 
และมันก็ไม่ใช่สิ่งที่เราจำเป็นต้องเป็น ในทางกลับกัน 
การที่คุณพยายามเป็นในสิ่งที่ไม่ใช่ตัวคุณจะเป็นเพียงการเสียเวลา ฝืนตัวเอง
 และเสียโอกาสที่จะพัฒนาส่วนเด่นของคุณเองอีกต่างหาก นอกจากนี้แล้ว 
การพยายามเป็นที่รักของทุกคน 
พยายามเอาใจทุกคนด้วยการเปลี่ยนตัวเองนั้นเป็นความคิดผิดๆ 
ที่จะทรมานตัวคุณเองเปล่าๆ 
เป็นตัวของคุณเองและให้คนอื่นภูมิใจหรือยอมรับในตัวตนที่แท้ของคุณดีกว่า
6. หยุดยึดติดกับอดีต
อดีตมีไว้ให้เรียนรู้ แต่ไม่ใช่ให้จมอยู่กับมัน 
ชีวิตคุณจะไม่มีวันไปไหนถ้ายังยึดติดกับเรื่องเดิมๆ 
คิดว่าชีวิตมันต้องเป็นแบบเมื่อวาน ความสำเร็จมันต้องเป็นแบบครั้งก่อน 
คุณกำลังอยู่กับ “วันนี้” และใช้ชีวิตเพื่อไปสู่ “พรุ่งนี้” 
ไม่ใช่การกลับไปใช้ชีวิตใน “เมื่อวาน”
7. หยุดกลัวที่จะทำผิด
ความผิดพลาดไม่ใช่เรื่องที่ใครอยากให้เกิดกัน แต่ในขณะเดียวกัน 
มันก็เป็นเรื่องราวสำคัญที่ทำให้คนประสบความสำเร็จ 
เพราะมันทำให้เขารู้ว่าอะไรดีและไม่ดี 
การอนุญาตให้ตัวเองได้พบกับความผิดพลาด (บ้าง) คือการเปิดใจให้กล้าลอง 
ได้ทดสอบหลายๆ อย่าง 
การลองแล้วผิดพลาดมันก็ยังดีเสียกว่าคุณไม่ได้ลองทำอะไรเลย 
คุณที่ประสบความสำเร็จก็ล้วนพบกับความผิดพลาดมาแล้วทั้งนั้น 
ถ้าคุณอยากจะไปให้ไกลขึ้น คุณก็ต้องกล้าที่จะพบกับความผิดหวังบ้าง 
แต่ถ้าคุณไม่กล้า คุณก็วนอยู่กับเรื่องเดิมๆ นั่นแหละ
8. หยุดโทษตัวเองกับความผิดก่อนๆ
คนเราผิดพลาดกันได้ แต่ไม่ใช่ว่าความผิดพลาดมันจะเกิดขึ้นตลอดไป 
ความผิดพลาดมันเกิดขึ้นในอดีต ไม่ใช่ปัจจุบัน 
คุณอาจจะเสียใจกับความผิดในอดีตได้ 
แต่อย่าเอาแต่โทษตัวเองจนไม่ได้ทำอะไรใหม่ 
จำไว้ว่าความผิดพลาดมันคือการปูโอกาสให้เจอสิ่งที่ใช่ 
การที่เราเคยคบกับคนที่ไม่ใช่ ก็เพื่อให้วันหนึ่งเราได้เจอคนที่ใช่ 
ความผิดพลาดในอดีตก็ทำให้เรารู้ว่าสิ่งที่ถูกคืออะไร
9. หยุดคิดที่จะเอาแต่ซื้อความสุข
ความสุขไม่ได้มาจากการใช้เงินสุรุ่ยสุร่าย 
จริงอยู่ว่าคุณอาจจะมีของอยากได้ที่ราคาแพง 
แต่นั่นไม่ใช่ทุกอย่างของความสุข 
อันที่จริงแล้วยังมีความสุขอีกมากมายที่คุณได้มาฟรีๆ อย่างเช่นรอยยิ้ม 
เสียงหัวเราะ หรือการทำในสิ่งที่ตัวเองรัก
10. หยุดคาดหวังความสุขจากคนอื่น
ประโยคประเภท “ชั้นมีความสุข เมื่อเธอมีความสุข” อาจจะฟังดูสุดโรแมนติค 
แต่ถ้าตัวคุณเองยังไม่มีความสุขกับตัวเองแล้ว 
คุณจะไปมีความสุขกับคนอื่นได้ยังไง ฉะนั้นแล้ว 
ความสุขเริ่มต้นจากตัวคุณเองก่อน ความคิดประเภท 
“ชั้นจะมีความสุขก็ต่อเมื่อมีเธอ” 
มันทำให้คุณต้องไปพึ่งหวังกับคนอื่นและต้องทุกข์ถ้าไม่มีอีกฝั่งทั้งที่จริง
คุณเองก็สามารถสุขได้ด้วยตัวเองแต่ไหนแต่ไรแล้ว ฉะนั้น 
สร้างตัวเองให้มั่นคงก่อน แล้วคุณแชร์ความสุขนั้นกับผู้อื่นดีกว่าครับ
11. หยุดไม่ทำอะไรสักที
หลายคนเป็นประเภทกลัวจะสร้างปัญหา เลยไม่ลงมือทำอะไรสักอย่าง 
แต่นั่นก็ทำให้คุณไม่ได้ไปไหนด้วยเช่นกัน 
ชีวิตคุณเกิดมาพร้อมกับเวลาและโอกาสมากมาย ใช้เสียให้คุ้ม 
ดูสถานการณ์รอบตัวคุณแล้วคิดเสียว่าคุณจะทำอะไรได้บ้างเพื่อจะพาชีวิตก้าวไป
ข้างหน้า แล้วก็เริ่มลงมือทำได้แล้ว
12. หยุดคิดว่าคุณไม่พร้อม
ไม่มีใครพร้อม 100% ตอนที่ได้รับโอกาส เพราะเอาเข้าจริงๆ การนิยามว่า 
“พร้อม” นั้นมันไม่มีคำนิยามที่เป๊ะๆ หรอก แถมเอาเข้าจริงๆ 
มันเป็นสิ่งที่คุณคิดไปเองทั้งนั้น โอกาสดีๆ 
ในชีวิตมันมาพร้อมกับการทำให้คุณก้าวไปสู่สิ่งที่คุณยังไม่เคยได้ทำ 
สิ่งที่คุณยังไม่มีประสบการณ์ ฉะนั้นมันไม่มีทางที่คุณจะพร้อมอยู่แล้ว 
มันอยู่แต่ว่าคุณจะยอมทำมันไหมต่างหาก
13. หยุดไปมีความสัมพันธ์ด้วยเหตุผลผิดๆ
การมีความสัมพันธ์ใดๆ นั้นเป็นเรื่องที่ต้องคิดและพิจารณากันดีๆ 
ชีวิคคู่ในหลายๆ ครั้งไม่ได้นำไปสู่เรื่องดีๆ 
แถมยังทำให้ชีวิตย่ำแย่เสียอีกต่างหาก ผมมักพูดเสมอบ่อยๆ 
ว่าถ้ามีคู่แล้วไม่ดี ก็อยู่เป็นโสดเสียดีกว่า 
อย่าไปคิแบบนิยายว่ารักคือสิ่งสวยงามที่จะทำให้ชีวิตของคุณมีแต่สีชมพู 
เราเห็นกันมาเยอะแล้วว่าเวลารักขมมันทำให้ชีวิตแต่ละคนย่ำแย่แค่ไหน 
ถ้าจะมีความรักอะไรนั้น ให้มีวันที่คุณพร้อมจะมี 
ไม่ใช่มีเพราะคุณแค่อยากจะหายเหงา
14. หยุดคิดว่าจะเป็นโสดแค่เพราะรักครั้งที่แล้วมันแย่
การมีความรักที่ผิดพลาดมาเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ 
แต่มันไม่ใช่ว่ารักครั้งใหม่มันจะต้องแย่เหมือนรักครั้งก่อน 
คุณที่คุณเจออยู่อาจจะเป็นคนที่ “ใช่” และทำให้ชีวิตของคุณดีก็เป็นไปได้ 
ฉะนั้นแล้วเปิดโอกาสให้ตัวเองบ้าง ไม่ใช่ปิดประตูเพราะเอาแต่คิดว่า 
“ผู้ชายทุกคนมันเลว” หรือ “ผู้หญิงทุกคนนั้นแย่” 
(ไอ้ที่แย่น่ะมันแค่คนบางคนที่คุณเจอ 
หรือบางทีอาจจะเป็นที่ตัวคุณเองต่างหากเล่า)
15. หยุดแข่งกับคนอื่น
การเทียบกับคนอื่นมีแต่จะทำให้คุณรู้สึกอคติกับตัวเองเพราะต้องมานั่ง
กังวลว่าคนอื่นเขาจะดีกว่าคุณเมื่อไร เขาจะนำคุณเมื่อไร 
มันกลายเป็นเป้าหมายชีวิตของคุณไปผูกอยู่กับคนอื่นแทนที่คุณจะมานั่งสนใจกับ
ตัวคุณเอง ฉะนั้นแล้ว ตั้งเป้าหมายในการแข่งกับตัวคุณเอง 
เอาชนะตัวเองในวันก่อนๆ ให้ได้คือสิ่งที่คุณควรจะคิดมากกว่านะครับ
16. หยุดอิจฉาคนอื่น
การอิจฉาเป็นกิเลสที่เผาตัวคุณอย่างไม่มีวันจบ 
ยิ่งคุณอิจฉาคนอื่นมันก็จะยิ่งทำให้คุณทรมานมากขึ้นเท่านั้น 
มันทำให้คุณวนเวียนแต่กับการคิดไม่ดีกับคนอื่น 
คิดแต่จะทำให้คนอื่นแย่กว่าตัวเอง ถ้าคนอื่นดีกว่าคุณ 
คุณก็โทษตัวเองไปในตัว แล้วมันนำไปสู่อะไรกันล่ะ? 
หยุดอิจฉาคนอื่นแล้วมาสนใจตัวคุณเองดีกว่า นอกจากไม่ทุกข์แล้ว 
คุณอาจจะรู้สึกดีกับตัวเองมากขึ้นด้วย
17. หยุดโทษตัวเอง
อย่างที่บอก (อีกแล้ว) ว่าคนเราผิดพลาดกันได้ คุณเองก็ผิดได้ 
เจ้านายคุณก็ผิดได้ เพื่อนคุณก็ผิดได้ 
อย่าเอาแต่คิดว่าทุกอย่างมันเกิดขึ้นเพราะคุณ สิ่งต่างๆ 
มันมีปัจจจัยที่มาเกื้อหนุนให้ “เกิดขึ้น” ไม่ใช่แค่เพราะคุณคนเดียว 
เรียนรู้จากความผิดพลาดและยิ้มให้กับตัวเองแทนที่จะเอาแต่โทษตัวเองไป
เรื่อยๆ
18. หยุดอาฆาตแค้น
นอกจากความอิจฉาแล้ว 
การอาฆาตแค้นเป็นเรื่องที่ชีวิตคุณไม่ควรเอามาถือไว้เลยสักนิด 
การเกลียดคนอื่นมีแต่จะทำให้ชีวิตคุณแย่และทำร้ายตัวคุณเองมากกว่าที่คนซึ่ง
คุณเกลียดทำกับคุณเสียอีก 
การให้อภัยหรือปล่อยมันไปเป็นเรื่องไม่ง่ายแต่นั่นก็คือสิ่งที่ทำให้คุณหลุด
พ้นจากวังวนที่ทำให้ชีวิตคุณแย่ คุณต้องกล้าที่จะบอกว่า 
“ฉันจะไม่ให้เธอมาทำลายความสุขของฉันอีก” แล้วก็อย่าไปสนใจมันอีก 
แค่นั้นแหละครับ
19. หยุดให้คนอื่นมาฉุดให้คนลงไปอยู่กับพวกเขา
หลายๆ 
ครั้งที่คุณรู้ว่าชีวิตคุณมีดีกว่าที่จะตอบโต้หรือลงไปอยู่ในมาตรฐานเดียว
กับคนบางกลุ่ม ฉะนั้นก็อย่าเอาตัวเองลงไปอยู่ในระดับที่ต่ำลง เหมือนบัว 4 
เหล่าที่คุณไม่ควรลงไปยุ่งและทำตัวแบบเดียวกับบัวที่อยู่ต่ำกว่าคุณนั่นแหละ
ครับ
20.  หยุดเอาเวลามานั่งอธิบายตัวเองให้คนอื่นฟัง
คนที่เขาเข้าใจและแคร์คุณ (และคนที่คุณควรแคร์) 
เขาไม่ต้องมานั่งฟังคุณอธิบายว่าคุณเป็นอย่างไร 
เพราะเขาจะเข้าใจคุณตั้งแต่แรกโดยแทบไม่ต้องพูดอะไรสักนิด ในขณะเดียวกัน 
คนที่เขาเกลียดคุณหรือเป็นศัตรูคุณเขาก็ไม่มานั่งฟังคุณเช่นกัน 
(คุณอธิบายไปก็เท่านั้นแหละ)
21. หยุดทำอะไรโดยไม่มีหยุดพัก
จริงอยู่ว่าชีวิตมีเวลาจำกัดที่คุณต้องรีบใช้ให้คุ้ม 
แต่การคุ้มไม่ใช่แปลว่าคุณไม่ได้พักอะไรเลย 
การพักบ้างอะไรบ้างมันทำให้คุณได้ถอนหายใจ ได้พิจารณาอะไรหลายๆ 
อย่างระหว่างพัก 
ลองหาเวลาที่จะหยุดทำอะไรสักพักแล้วให้เวลากับตัวเองในเรื่องอื่นบ้างก็ไม่
เสียหายหรอกครับ
22. หยุดมองข้ามความสวยงามเล็กๆ น้อย
การหาความสุขกับเรื่องเล็กๆ น้อยๆ 
บ้างมันเป็นเรื่องที่ดีและทำให้คุณเห็นคุณค่าของ “เวลา” และ “ชีวิต” 
มากกว่าที่คุณคิด คุณอาจจะมีเป้าหมายใหญ่ที่ต้องวิ่งไปข้างหน้าอีกนาน 
แต่อย่าลืมแวะสนุกกับเรื่องราวริมทางบ้าง 
มันจะดีมากถ้าคุณสามารถมีความสุขกับเรื่องเล็กๆ น้อยๆ 
เช่นเดียวกับความสุขใหญ่ๆ ที่ปลายทาง
23. หยุดทำให้ทุกอย่างเพอร์เฟค
โลกความจริงมันไม่เหมือนโลกอุดมคติ ไม่มีอะไรที่จะเสร็จสมบูรณ์ไปได้ 
คนเราย่อมคิดอะไรที่จะแต่งแต้มและเพิ่มให้ดีขึ้นได้อีกเรื่อยๆ 
การที่เอาแต่บอกว่ามันต้องสมบูรณ์เท่านั้นมันเป็นการตีกรอบให้หลายๆ 
ทีคุณไม่ได้ทำอะไรเลยสักอย่างเพราะคุณเอาแต่คิดว่า “มันไม่ดีพอ” สักกะที
24. หยุดเดินตามเส้นทางที่เน้นปลอดภัยอย่างเดียว
ใครๆ ก็อยากรู้สึกปลอดภัยอยู่ใน Comfort Zone 
แต่นั่นก็ทำให้คุณไม่ได้ไปไหนไกล 
การจะประสบความสำเร็จหรือได้สิง่ที่คุณคู่ควรนั้น 
ส่วนหนึ่งคือการลองทำสิ่งใหม่ๆ การทำอะไรที่ยากๆ 
หรือทำอะไรที่แตกต่างไปจากเดิม ฉะนั้นแล้ว อย่าเอาแต่เลือกเส้นทางแบบ 
“รักสบาย” ตลอดไป บางครั้งคุณต้องกล้าจะเลือกทางที่จะยากลำบากบ้าง 
(แล้วมันอาจจะดีเสียกว่าที่คุณเลือกทางสบายๆ เสียอีก)
25. หยุดทำเป็นเหมือนว่าทุกอย่างไม่เป็นไรทั้งที่จริงมันไม่ใช่
การมองโลกในแง่ดีกับการมองโลกโดยไม่อยู่กับความจริงมันเป็นเรื่องที่ฟัง
ดูคล้ายๆ กันแต่ได้ผลคนละเรื่อง คุณไม่จำเป็นต้องทำตัวเป็นคนที่แข็งแกร่ง 
ไม่กระเทือน ไม่รู้สึกรู้สาตลอดเวลา 
บางทีคุณก็ต้องปล่อยให้ตัวเองรู้สึกบ้างอะไรบ้าง 
เดือดร้อนบ้างตามประสามนุษย์ มันทำให้คุณมีโอกาสได้เป็น “คน” 
อย่างที่คุณเป็นอยู่แหละครับ
26. หยุดพยายามเป็นทุกอย่างเพื่อทุกๆ คน
ความคิดเรื่องของการเป็น “คนของประชาชน” 
ไม่ใช่เรื่องที่คนธรรมดาอย่างคุณควรจะทำ 
(เว้นแต่คุณจะพยายามเป็นนักการเมืองน่ะนะ) 
คุณต้องไม่ลืมว่าคนรอบข้างคุณไม่ได้คิดเหมือนกันทุกคน ยิ่งคุณรู้จักคนเยอะ 
เกี่ยวข้องกับคนเยอะ มันก็ยิ่งมีความต้องการมากมาย ความคาดหวังที่หลากหลาย 
แล้วมันคงไม่ใช่เรื่องที่คุณจะต้องปรับตัวเองเพื่อให้ตอบสนองทุกๆ อย่าง 
เพราะสุดท้ายก็จะมีแต่ทำให้ตัวตนของคุณบิดเบี้ยวเสียอีกต่างหาก
27. หยุดโทษคนอื่นสำหรับปัญหาของคุณ
การไม่รับผิดชอบกับชีวิตตัวเอง 
แต่โยนความรับผิดชอบให้กับผู้อื่นคือนิสัยของคนที่จะไม่มีวันโตเพราะเขาจะ
ไม่มีวันเรียนรู้จากความผิดพลาดได้ 
คนที่จะประสบความสำเร็จคือคนประเภทที่กล้า “รับผิด” และ “รับชอบ” กับตัวเอง
 ไม่ใช่เอาแต่ “รับชอบ” อย่างเดียว
28. หยุดกังวลเกินไป
การเอาแต่กังวลไปเสียทุกอย่างมีแต่จะทำให้สมองของคุณรวมทั้งความรู้สึก
ของคุณไม่ได้อยู่ในภาวะที่จะนำไปสู่ความสุขเลยแถมยังจะฉุดตัวคุณเองในแต่ละ
วันด้วยซ้ำ เรื่องบางเรื่องคุณอาจจะกังวลได้ 
แต่เรื่องบางเรื่องมันยังไม่ถึงเวลา หรือไม่ใช่เรื่องที่คุณควรจะกังวล 
ถามตัวเองให้ดีเวลาที่คุณจะกังวลกับอะไรว่าคุณควรจะกังวลกับมันไหม
29. หยุดคิดถึงแต่สิ่งที่คุณไม่อยากให้เกิดขึ้น
แทนที่คุณจะเอาสมาธิไปมัวคิดว่าจะเกิดอะไรที่ไม่พึงประสงค์ 
คุณควรไปนั่งคิดมากกว่าว่าจะทำอะไรให้เกิดสิ่งที่คุณพึงประสงค์ 
การคิดในแง่บวก (แบบไม่เกินจริง) 
คือพื้นฐานที่ทำให้คนคิดก้าวไปสู่ความสำเร็จ ฉะนั้นแล้ว 
เอาพลังและเวลาที่คุณมีไปคิดถึงแต่สิ่งดีๆ 
ที่คุณอยากทำให้เกิดขึ้นดีกว่าครับ
30. หยุดเฉยชากับโลก
ไม่ว่าโลกมันจะแย่หรือจะดี 
มันคงจะดีกว่าที่คุณจะรู้สึกดีที่มีชีวิตอยู่และมีวันนี้ (รวมทั้งพรุ่งนี้)
 มีคนมากมายที่ชีวิตแย่กว่าคุณ (เชื่อเหอะว่ามีจริงๆ) 
รู้จักยินดีกับสิ่งที่คุณมี 
พอใจกับความสุขที่คุณได้ในแต่ละวันมันทำให้คุณอยากมีชีวิตต่อไปแทนที่จะมา
นั่งคิดว่าคุณพลาดอะไรไปบ้าง หรือขาดอะไรไป